ความสุข

  ณ ริมถนนแห่งหนึ่ง มีชายคนหนึ่งยืนเล่นเครื่องดนตรีอยู่ เด็กน้อยคนหนึ่งเดินมากับแม่ก็เรียกให้แม่ดู จากนั้นผู้เป็นแม่ก็ยื่นให้ด้วยแบ้ง 20แล้วส่งให้ลูก "บอกว่าเอาไปให้พี่เขาสิลูก" เด็กน้อยก็เดินนำเงินไปใส่กล่องที่วางด้านหน้าชายที่เล่นดนตรีและหยุดฟังเสียงนั้นด้วยความอัศจรรย์ใจ เด็กน้อยมองดูไม่ละสายตาแม้ว่าแม่จะเรียกให้เดินไปแล้วก็ยังเหลียวหลังมอง เหตุการณ์แบบนี้อาจมีหลายคนเคยเห็นหรือเกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อเจ้าตัวน้อยสนใจสิ่งเหล่านี้เมื่อเดินริมถนน แปลกที่เด็กน้อยไม่มองข้ามเสียงดนตรีนั้น เขาเลือกที่จะสนใจและหยุดมองแม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อยระหว่างทางเดินที่มีตึกราใหญ่โตสูงเสียงฟ้า มีรถไฟฟ้าวิ่งคู่ขนานตึกเหล่านั้น หรือจะเป็นท้องถนนที่เต็มไปด้วยรถและผู้คนเดินสวนกันไปมา และแน่นอนผู้คนก็เดินผ่านชายคนนั้นไปด้วยเช่นกัน แตทำไมนะเด็กน้อยถึงสนใจในเสียงที่ผ่านไปตรงนั้น อาจเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงดนตรีจากเครื่องดนตรีหน้าตาไม่คุ้นชิน หรืออาจเพราะมีเพียงชายคนนี้ที่หยุดทำสิ่งนี้ในขณะที่ทุกคนกำลังรีบเร่งกับเวลา ไม่ว่าเด็กน้อยจะคิดอย่างไรนั้นมันคงไม่น่าสนใจ ถ้าที่จริงแล้วลองมองย้อนไปว่าเราเดินผ่านอะไรแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน เราไม่ได้เดินผ่านชายที่เล่นดนตรีแต่เราเดินผ่านความสุขเล็กๆน้อยๆเพื่อมาไขว่คว้ากับความสุขที่ยิ่งใหญ่มานานแค่ไหนและกี่ครั้งที่ทำแบบนั้น ถ้าความจริงแล้วเด็กน้อยมีความสุขที่จะรับกับสิ่งที่ชายคนนั้นกำลังมอบให้แม้จะเป็นเรื่องราวเล็กๆที่คนอื่นมองข้าม โดยที่เด็กคนนั้นก็เลือกที่จะตอบแทนด้วยน้ำใจเล็กๆน้อยที่รับมาจากแม่อีกต่อหนึ่ง ทว่า นี่อาจหมายถึงการที่เราหวังแต่จะรับความสุขจากคนอื่นมากกว่าส่งต่อมันไปให้อีกหลายคน เมื่อเป็นเช่นนี้ความสุขของเราจึงสั้นลงเพราะอยากเก็บไว้คนเดียว เด็กน้อยมีความสุขที่ได้ฟังเสียงดนตรี ชายคนนั้นมีความสุขที่มีคนฟัง แม่มีความสุขที่เห็นลูกสุข ความสุขที่ส่งต่อย่อมไม่มีที่สิ้นสุด แม้ว่ามันอาจจะอยู่ในเวลาที่สั้นแต่เราจะได้รับมันอย่างไม่สิ้นสุด เพราะเราจะเรียนรู้ในการส่งต่อความสุขให้คนอื่นและสุขเมื่อเห็นคนอื่นรับมัน เมื่อความสุขแผ่ขยายไปแม้จะเป็นเรื่องธรรมดาก็ยังเรีกว่า"ความสุข"


2 ความคิดเห็น:

  1. อยากให้คนเขียนมีความสุขมากๆนะ^^

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ