จังหวะชีวิต.

"บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิต" ถึงเราจะเร่งรัดมันไปก็เปล่าประโยชน์ เราอาจต้องอดทนรอเพื่อให้จังหวะมันมาถึง ถ้าเรามองเห็นข้อดีของสิ่งที่เราทำอยู่ได้ก็จะทำให้เราเปิดใจยอมรับมากขึ้น แค่เราไม่เกลียดมันถึงจะไม่ชอบแค่ไหนก็ยังเปิดใจรับได้ แต่ถ้าเกลียดมันแล้วฝืนทำไปแค่ไหนก็ไม่มีทางเข้าถึงหรือมีความสุขกับมัน ตรงกันข้ามถ้าทำไปแล้วมองไม่เห็นทางว่าเราจะได้รับอะไรก็ควรหยุด สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรหยุดก็คือหยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ แม้ว่าเราจะมีประสบการณ์แค่ไหนสิ่งใหม่เรื่องราวแปลกใหม่ก็เข้ามาให้เรียนรู้เสมอ แม้ว่าเราจะเลือกทำสิ่งที่รักมากที่สุดก็ต้องมีสิ่งที่ไม่เป็นดั่งใจให้เราแก้ไขอยู่เสมอ มิตรที่มีอยู่ก็สำคัญเมื่อเราเรียนรู้ว่าการให้และรับต่อผู้อื่นต้องปฏิบัติอย่างไรแล้วสิ่งต่อมาที่ควรเรียนรู้คือ บุคคลที่เราพบเจอคือมิตรแท้จริงที่เราโชคดีได้พบหรือเพื่อนร่วมโลกที่เผชิญกับชะตาชีวิตที่ต้องดิ้นรนไม่ต่างจากเรา อาจต้องใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่กับความหวังความกดดันแต่มันจะผ่านไป เส้นทางที่จะผ่านไปอาจไม่ง่ายแต่เราต้องยอมรับข้อหนึ่งว่าปัญหาและการเปลี่ยนแปลงไม่เคยหยุดนิ่ง คิดไตร่ตรองให้ดีว่าที่ทำลงไปแล้วได้อะไรกลับมา ผลของมันเป็นอย่างไรและคุ้มหรือไม่คุ้มจะตอบโจทย์ข้อนั้นได้เอง เปิดตาดูโลกให้กว้างและอย่าปิดใจ เราจะเข้าใจว่าเลือกเดินทางไหนก็ต้องเจอถนนขรุขระและทางแยก

ขอบคุณพี่ปัทสำหรับข้อคิดที่ใจเราเปิดรับ :)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น